วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ความมั่นคงทางการเมืองภายในประเทศกับการตลาดระหว่างประเทศ
เป็นสิ่งสำคัญต่อเนื่องมาจากระบอบการปกครองประเทศและนโยบายรัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลเป็นผู้มีอำนาจในการบริหารประเทศและกำหนดนโยบายแห่งรัฐ ในขณะที่กิจการข้ามชาติจำนวนมากจะเป็นกิจการขนาดใหญ่ใช้เงินลงทุนสูงต้องการส่วนแบ่งทางการตลาดที่สูง ทำให้นโยบายของรัฐบาลมีผลกระทบโดยตรงต่อกิจการขนาดใหญ่เหล่านี้ ถ้ารัฐบาลมีฐานะไม่มั่นคงมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย จะส่งผลกระทบต่อนโยบายที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ทำให้กิจการข้ามชาติเหล่านี้ประสบปัญหาในการบริหารงานด้านการตลาดในประเทศนั้น ๆ ประการสำคัญได้แก่ กิจการข้ามชาติจำนวนหนึ่งมีขนาดใหญ่มาก ใช้เงินลงทุนสูงจึงต้องการส่วนแบ่งทางการตลาดที่มากและใช้เวลาในการคืนทุนยาวนาน ถ้าไปลงทุนในประเทศที่ไม่มีความมั่นคงทางการเมืองจะประสบปัญหาเป็นอย่างมาก กล่าวคือความไม่มั่นคงทางการเมืองจะก่อให้เกิดปัญหาทั้งในแง่การเปลี่ยนนโยบายของรัฐบาลหรือแม้กระทั่งปัญหาจากพรรคการเมืองต่างขั้วกันและส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของกิจการ ความไม่มั่นคงดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงทางการเมือง ระดับความเสี่ยงทางการเมืองจะเป็นสัดส่วนในทางกลับกันกับระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ในกรณีที่ปัจจัยอื่น ๆ เหมือนกันประเทศด้อยพัฒนาจะมีอัตราความเสี่ยงทางการเมืองสูง ตัวอย่างเช่น ในการขยายตลาดไปยังประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจสามกลุ่ม ซึ่งประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา ประเทศในกลุ่มตลาดร่วมยุโรปและประเทศญี่ปุ่น ความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศเหล่านี้จะมีต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่กำลังเริ่มต้นพัฒนา เช่น ในอัฟริกา ลาตินอเมริกาหรือในเอเชีย เช่นประเทศในกลุ่มสหภาพโซเวียตเดิม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น